บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2013

ชนะ หมายถึงการลุกขึ้นได้ทุกครั้งที่ก้าวพลาด

รูปภาพ
ชนะ หมายถึงการลุกขึ้นได้ทุกครั้งที่ก้าวพลาด ยกตัวอย่าง เช่น เบบ รูธ นักเบสบอลชื่อดังที่เคยพลาดถึง 1330 ครั้ง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ก็พูดไม่ได้จนอายุได้ 4 ขวบ อาจารย์สอนดนตรีของบีโทเฟน เคยกล่าวว่า "เขาไม่มีหวังจะได้เป็นนักแต่งเพลง" หลุยส์ ปาสเตอร์ ได้คะแนน "ปานกลาง" ในวิชาเคมี นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดประดิษฐ์จรวด เวิร์นเฮอร์ วอน บราน์ สอบตกวิชาพีชคณิตที่เรียนอยู่ชั้นเกรด 9 นักวิทยาศาสตร์ เช่น มาดามแมรี คูรี ทำการทดลองขณะใกล้จะล้มละลายก่อนที่จะบุกเบิกศาสตร์แขนงนิวเคลียร์ เคมีและเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของวงการวิทยาศาสตร์โลกตลอดไป ไมเคิล จอร์แดน ถูกตัดออกจากทีมบาสเกตบอลของโรงเรียน เมื่อขณะเรียนอยู่ชั้นไฮสคูลปี 2 ต่อไปนี้คือเหตุการณ์ชีวิตในอดีตของชายผู้หนึ่งซึ่งเคยผิดพลาดมาหลายครั้ง แต่ก็ยังสู้ไม่ถอย ลองดูซิว่าคุณจะทายถูกหรือไม่ว่าเขาคือใคร เขาเคยล้มเหลวทางธุรกิจขณะที่อายุได้ 22 ปี พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเพื้อเป็นสมาชิกในสภานิติบัญญัติแห่งรัฐเมื่ออายุได้ 23 ปี ล้มเหลวทางธุรกิจอีกครั้งขณะที่อายุได้ 25 ปี รับมือกับการเสียชีวิตของแฟนสาวอันเป็นที่รักยิ่งเมื่ออา

ในโลกของความเป็นจริง

รูปภาพ
เคยได้ยินเรื่องนี้ไหมครับ เป็นเรื่องครูเชียงราย ที่ "ทักษิณ ชินวัตร"นำมาเป็นตัวอย่างเป็นประจำ ครูคนหนึ่งตั้งคำถามกับเด็กว่า  "ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร" เด็กส่วนใหญ่ตอบว่า "7 บาท"  แต่มีเด็ก 2 คนที่ตอบไม่เหมือนกับคนอื่น คนหนึ่งตอบว่า "2 บาท" อีกคนหนึ่งตอบว่า "ไม่ต้องทอน" ครูถามเด็กคนแรกว่าทำไมถึงได้เงินทอน 2 บาท คำตอบที่ได้ก็คือภาพในใจของเขาสำหรับเงิน 10 บาท คือ เหรียญห้า 2 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ให้เหรียญห้า 1 เหรียญ  ดังนั้นจึงได้เงินทอน 2 บาท ถามเด็กคนที่สองว่าทำไมไม่เหลือเงินทอนเลย คำตอบก็คือเด็กคนนี้คิดว่าในกระเป๋ามีเหรียญบาท 10 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ส่งเหรียญบาทให้ 3 เหรียญ เพราะฉะนั้น คนขายจึงไม่ต้องทอนเงินให้เขา โชคดีที่เป็นการถาม-ตอบในห้องเรียน ลองนึกดูสิครับว่าถ้าโจทย์นี้เป็นข้อสอบที่มีคำตอบเป็น ก-ข-ค-ง เด็ก 2 คนนี้ก็คงไม่ได้คะแนนจากคำตอบที่ผิดเพี้ยนจากคนส่วนใหญ่ การสร้างโจทย์ที่ "เสมือนจริง" จินตนาการของ "ครู" อาจถูกจำกัดเพียงแค่ "ตัวเลข"

บทเรียนที่มีค่า(บทสุดท้าย) : ให้เมื่อมีค่า : Giving When it Counts

รูปภาพ
หลายปีมาแล้วเมื่อฉันไปทำงานเป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ฉันได้รู้จักกับเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อ ลิซ ซึ่งป่วยเป็นโรคร้ายที่มีน้อยคนที่จะเป็นโอกาสที่เธอจะหายจากโรคนี้ได้คือต้องทำการถ่ายเลือดจากน้องชายอายุห้าขวบของเธอ  ผู้ซึ่งรอดจากโรคร้ายนี้ได้อย่างปาฏิหาริย์ จึงทำให้เขาร่างกายเขาสร้างภูมิคุ้มกันโรคร้ายนี้ขึ้นมา หมออธิบายสถานการณ์ให้น้องชายของเธอฟัง และถามเด็กชายว่า เขาต้องการจะให้เลือดของเขาแก่พี่สาวหรือไม่ ฉันเห็นเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสูดหายใจลึกแล้วพูดว่า  " ได้ครับ หากมันช่วยพี่สาวผมได้ " เมื่อทำการถ่ายเลือด เขานอนยิ้มอยู่ที่เตียงข้างๆพี่สาว ในขณะที่เราเริ่มจะเห็นสีสันคืนสู้แก้มของเธอ หน้าของเด็กชายก็เริ่มซีดและรอยยิ้มก็จางหายไป เด็กชายมองไปที่หมอและถามด้วยเสียงสั่นเครือ  "ผมกำลังจะตายใช่ไหม?" ด้วยความเป็นเด็กเขาเข้าใจหมอผิดไป เด็กชายคิดว่าเขาต้องให้เลือดทั้งหมดของเขาให้แก่พี่สาวเพื่อช่วยชีวิตเธอ *** จิตใจของเด็กคนนี้มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ คือ "ผู้ให้" เพราะแม้แต่ชีวิตก็ให้ได้ เพื่อต่อชีวิตพี่สาวของเขา *** -ผู้คัดลอก- Copy มาจาก Five (5

บทเรียนที่มีค่า : สิ่งที่กีดขวางทางของเรา

รูปภาพ
ในยุคโบราณ มีหินผาตกลงมาขวางถนนเส้นหนึ่ง เมื่อพระราชามาพบเข้าจึงซ่อนพระองค์อยู่  เพื่อคอยดูว่าจะมีใครมาเอาหินใหญ่ก้อนนั้นออกไปจากทาง เมื่อเสนาบดีในราชสำนักของพระองค์และพ่อค้าผู้ร่ำรวยผ่านมา ก็เพียงแต่อ้อมหินผาก้อนใหญ่นั้นไป  พวกเขากล่าวตำหนิพระราชาต่างๆนานา ที่พระองค์ไม่ใส่พระทัยที่จะดูแลทางนั้นให้ดี แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรที่จะเอาหินนั้นออกไปให้พ้นทาง จนกระทั่งชาวบ้านคนหนึ่งแบกผักกองใหญ่ผ่านมา  เมื่อเขาเดินมาถึงหินผานั้น เขาก็วางสัมภาระลง แล้วพยายามที่จะขยับก้อนหินนั้นให้พ้นทาง หลังจากทั้งผลักทั้งดึงหินก้อนนั้น ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ  เมื่อเขาหยิบสัมภาระของเขาขึ้นมา เขาก็เห็นถุงเงินวางอยู่ตรงจุดที่ก้อนหินผาเคยอยู่ ในถุงนั้นมีเหรียญทองและจดหมายจากพระราชา เขียนไว้ว่า  ทองในถุงนั้นเป็นของผู้ที่เอาหินผาออกไปจากถนน ชาวบ้านคนนั้นได้รู้สิ่งที่เราไม่เคยได้รู้ ทุกๆอุปสรรคที่กีดขวางทางนั้น จะมอบโอกาสที่เราจะดีขึ้นให้กับเรา Important Lesson - "The Obstacles In Our Path" In ancient times, a King had a boulder placed on a roadway. Then he hid himself and watched to see if anyone wo

เมื่อแฟนผมให้ผมไปออกเดทกับหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เธอ

รูปภาพ
หลังจากที่แต่งงานมาได้ 21 ปี ผมก็ค้นพบวิธีใหม่ในการทำให้ความรักสดใสมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ เพราะวันหนึ่งภรรยาผมบอกว่า ผมต้องออกเดทกับผู้หญิงคนหนึ่ง  มันเป็นไอเดียของเธอล้วนๆจริงๆนะ " ฉันรู้ว่าคุณรักเธอ " ภรรยาผมว่า " แต่ผมรักคุณนี่ " ผมเถียง " ฉันรู้ค่ะ แต่คุณก็รักเธอคนนี้ด้วยเหมือนกัน" ผู้หญิงคนนั้นที่ภรรยาอยากให้ผมไปหา คือ แม่ของผมเอง  ซึ่งเป็นหม้ายมา 19 ปีแล้ว เนื่องจากงานที่รัดตัวและต้องดูแลลูกๆ  ทำให้ผมไปเยี่ยมแม่เพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น วันที่ผมโทรไปหาแม่เพื่อชวนท่านออกไปทานข้าวเย็นและดูหนัง แม่ถามว่า "มีอะไรหรือ? ลูกสบายดีรึเปล่า? "  แม่ผมเป็นผู้หญิงประเภทที่คิดว่าการที่คนโทรมาหากลางดึก  หรือเชิญอย่างกระทันหัน หมายความว่ามีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น ผมตอบแม่ว่า  "ผมว่าดีออกถ้าเราได้ใช้เวลากันตามลำพังสองคนแม่ลูกบ้าง" แม่นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า " แม่ยินดีมากเลยจ้ะ " เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ผมขับรถไปรับแม่ที่บ้าน  ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อผมไปถึงบ้านแม่ ผมก็สังเกตุได้ว่า แม่เองก็ตื่นเต้นเ

ความหมายของของขวัญ

รูปภาพ
เรื่องมีอยู่ว่า.....ชายคนหนึ่งเคยลงโทษลูกสาววัย 5 ขวบของเขา   เพราะนำเงินไปซื้อกระดาษห่อของขวัญสีทองม้วนหนึ่งซึ่งมีราคาแพงในขณะที่การเงินที่บ้านฝืดเคือง และเค้าก็อารมณ์เสียอีกครั้งเมื่อลูกสาวของเขานำกระดาษสีทองราคาแพงนั้น มาห่อกล่องของขวัญเพียงเพื่อตกแต่งไว้ใต้ต้นคริสต์มาส            แต่กระนั้น...ลูกสาวตัวน้อยก็ได้มอบกล่องของขวัญนั้นให้พ่อของเธอในเช้าวันรุ่งขึ้น และพูดว่า "นี่สำหรับพ่อค่ะ" พ่อของเธอกระอักกระอ่วนกับอาการที่ได้แสดงออกไปก่อนหน้านี้ แต่แล้วความโกรธก็ได้พุ่งขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาพบว่ามันเป็นเพียงกล่องเปล่า เขาพูดด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดว่า "ลูกไม่รู้จริงๆ อย่างนั้นหรือว่าการจะให้ของขวัญใคร มันจะต้องมีอะไรอยู่ในกล่องของขวัญด้วย" เด็กน้อยมองไปที่พ่อของเธอด้วยน้ำตา และพูดว่า " โอ...พ่อจ๋า มันไม่ใช่กล่องเปล่าเลย หนูเป่าจูบเข้าไปจนเต็ม" ชายคนนั้นสะอึก/ตัวชาด้วยความเสียใจ เขาทรุดตัวลงแล้วโอบกอดลูกสาวไว้แน่น   เขาขอให้ลูกสาวยกโทษให้กับท่าทางโกรธเกรี้ยวเกินเหตุของเขา ต่อมาไม่นานอุบัติเหตุก็ได้คร่าชีวิตลูกสาวของชาย

บทเรียนที่มีค่า : ระลึกถึงคนที่ให้บริการเสมอ Always remember those who serve.

รูปภาพ
ในสมัยที่ไอศครีมซันเดยังมีราคาถูกอยู่มาก เด็กชายอายุสิบขวบคนหนึ่งเข้าไปในคอฟฟี่ชอปของโรงแรมแห่งหนึ่งแล้วนั่งที่โต๊ะ เมื่อพนักงานเสริฟวางแก้วน้ำลงตรงหน้า เด็กชายก็ถามว่า "ไอศครีมซันเดราคาเท่าไหร่ครับ?" "ห้าสิบเซ็นต์" พนักงานเสริฟสาวตอบ แล้วเด็กชายก็ดึงมือออกจากกระเป๋า แล้วก็นับเหรียญในมือ "งั้น ไอศครีมเปล่าๆล่ะครับราคาเท่าไหร่?" เด็กชายถามอีก ตอนนี้เริ่มมีคนรอโต๊ะมากขึ้นและพนักงานเสริฟสาวก็เริ่มจะหมดความอดทน "สามสิบห้าเซ็นต์" เธอตอบห้วนๆ เด็กชายนับเหรียญในมืออีกครั้ง "ผมขอไอศครีมเปล่าครับ" เด็กชายบอก แล้วพนักงานเสริฟสาวก็เอา ไอศครีมมาให้ เอาใบเสร็จมาให้แล้วก็เดินหนีไป เด็กชายทานไอศครีมหมดแล้ว ก็จ่ายเงินแล้วจากไป เมื่อพนักงานเสริฟเดินกลับมา เธอก็เริ่มร้องให้เมื่อเธอเช็ดโต๊ะ บนโต๊ะนั้น มีเหรียญนิกเกิลราคาห้าเซ็นต์สองเหรียญและเหรียญเพนนีอีกห้าเหรียญวางอยู่อย่างบรรจงข้างจานเปล่านั้น เห็นไหมว่า เด็กชายไม่ทานไอศครีมซันเด เพราะเขาต้องเหลือเงินไว้ทิปพนักงานเสริฟสาวคนนั้น In the days when an ice cream sundae cost much less, a 10

เรื่องเล่าจากหญิงชรา : An 87 Year Old College Student Named Rose

รูปภาพ
วันแรกที่พวกเราเริ่มการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้น อาจารย์ของเราได้เข้ามาแนะนำตัว และบอกให้พวกเราทำความรู้จักกับคนอื่นๆ ที่เราไม่รู้จักมาก่อน ผมยืนขึ้นแล้วมองไปรอบๆ และมีมือๆ หนึ่ง เอื้อมมาจับบ่าของผม ผมหันไปพบกับหญิงชราร่างเล็ก ผิวหนังเหี่ยวย่น ที่ส่งรอยยิ้มอันเป็นประกายมาให้ผม รอยยิ้มนั้นทำให้เธอดูสดใสอย่างยิ่ง หญิงชราคนนั้นกล่าวขึ้นว่า "สวัสดี รูปหล่อ ฉันชื่อโรส อายุแปดสิบเจ็ดแล้ว มาให้ฉันกอดสักทีสิ" ผมหัวเราะกับท่าทางของเธอ และตอบอย่างร่าเริงว่า "แน่นอน ได้สิครับ " แล้วเธอก็กอดผมอย่างแรง ผมถามเธอว่า "ทำไมคุณถึงมาเรียนมหาวิทยาลัย เอาตอนที่อายุน้อยและไร้เดียงสาอย่างนี้ละ.. " เธอตอบด้วยเสียงปนหัวเราะว่า "ฉันมาหาสามีรวยๆ ที่ฉันจะได้แต่งงานด้วย แล้วมีลูกสักสองสามคน..." ผมขัดจังหวะเธอ โดยถามว่า "ไม่เอาครับ.. ถามจริงๆ " ผมสงสัยจริงๆ ว่า อะไรทำให้เธอมาเรียน ที่นี่ตอนที่อายุขนาดนี้ และเธอตอบว่า "ฉันฝันมานานแล้ว ว่าฉันจะได้ปริญญา และตอนนี้ ฉันก็กำลังจะได้ปริญญาที่ฉันฝัน" หลังเลิกเรียนวิชานั้น เราเดินไปที่อาคารสโมสรนัก

ให้สิ่งใด ได้สิ่งนั้น : What goes around comes around

รูปภาพ
แม้ตะวันจะเริ่มโพล้เพล้   แต่ก็ยังไม่มืดเกินไปที่เขาจะสังเกตุเห็นหญิงสูงอายุแต่แต่งกายดีคนนั้น ยืนอยู่ข้างทางรอความช่วยเหลือ . เขาเบี่ยงรถเข้าจอดหน้ารถเมอซีเดส เบ๊นส์คันงามของเธอ และลงจากรถ ขณะที่เขาเดินเข้าไปหาเธอ  รถปอนเตี๊ยกของเขาทั้งสั่นทั้งคราง แม้เขาจะระบายยิ้มซะเต็มหน้า แต่ใบหน้าเธอยังคงเต็มไปด้วยแววกังวล . ...ไม่มีใครยอมหยุดมาช่วยเราเลย ตั้งชั่วโมงกว่าแล้ว เขาจะทำร้ายฉันไหมหนอ ... เขาดูไม่น่าเชื่อถือเลย... ดูซกมกและหิวโซอีกต่างหาก...” . เขาพอมองออกว่าเธอกลัวเขา ยืนอยู่เดียวดายท่ามกลางความหนาวเย็น เขาเข้าใจดีว่าเธอรู้สึกอย่างไร มันเป็นความหนาวสั่นที่มาพร้อมกับความกลัวเชียวหละ . “ผมมาช่วยครับ คุณผู้หญิง ทำไมไม่เข้าไปนั่งสบายๆในรถที่อบอุ่นกว่าละครับ... เอ้อ ผมชื่อ ไบรอัน แอนเดอร์สัน ครับ” . ที่จริง รถเธอแค่ยางแตก แต่นั่นก็หนักหนาพอแล้วสำหรับเธอ ไบรอันก้มลงมองใต้รถ หาที่สำหรับค้ำแม่แรง ถลกแขนเสื้อและขยับแขน 2 -3 ครั้ง ในไม่ช้า เขาก็เริ่มเปลี่ยนยางได้ แต่ก็ต้องแลกกับความมอมแมมและเจ็บมือเล็กน้อย . ตอนที่เขาขันน๊อตล้อตัวสุดท้าย เธอหมุนกระจกรถลง และเริ่มคุยกับ

บทเรียนที่มีค่า : รับคนกลางสายฝน 

รูปภาพ
คืนหนึ่ง เวลา 23:30 น. สตรีสูงอายุเชื้อสายแอฟริกันคนหนึ่ง  ยืนอยู่ริมทางหลวง สายอลาบามา พยายามต้านฝนที่ตกหนักอยู่ รถของเธอเสีย และเธอต้องการเดินทางต่อไปอย่างมาก แม้จะเปียกโชก  เธอตัดสินใจโบกรถคันที่วิ่งผ่านมา ชายหนุ่มผิวขาวผู้หนึ่งหยุดรถเพื่อช่วยเหลือเธอ ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ในยุคที่มีความขัดแย้ง เรื่องการเหยียดผิวอย่างทศวรรษที่ 60 ชายหนุ่มช่วยเหลือให้เธอได้รับความปลอดภัย และส่งเธอขึ้นรถแท๊กซี่ แม้ว่าเธอจะเร่งรีบมาก แต่ก็ขอบคุณเขาและจดที่อยู่ของเขาไปด้วย เจ็ดวันหลังจากนั้น ก็มีชายคนหนึ่งมาเคาะประตูบ้านของเขา ด้วยความประหลาดใจ โทรทัศน์สีจอยักษ์เครื่องหนึ่ง ถูกนำมาส่งยังบ้านของเขาและมีข้อความแนบมาด้วย ใจความว่า: "ขอบพระคุณมากสำหรับความช่วยเหลือบนทางหลวงในคืนนั้น ฝนไม่ได้ชะล้างแต่เพียงเสื้อผ้าของฉันเท่านั้น แต่ชะเอากำลังใจของฉันไปด้วย แต่เมื่อคุณผ่านมา เป็นเพราะคุณ ฉันจึงสามารถไปทันดูใจสามีที่กำลังจะเสียชีวิต ทันเวลาก่อนที่เขาจะสิ้นลมพอดี ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อวยพรคุณ สำหรับการช่วยฉัน และการช่วยเหลือผู้อื่น อย่างไม่เห็นแก่ตัวของคุณ" ด้วยความจริงใจ นาง