บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์, 2014

ความกดดัน

รูปภาพ
ไม่อยากเรียกว่า “ความกดดัน” แต่มันไม่แตกต่าง หากรู้ว่าวันนี้มันหนักหนา ควรแบ่งปันให้กับพรุ่งนี้บ้าง นักพูดท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ในการพูดของเขาครั้งหนึ่งถึงเรื่อง “การจัดการกับความกดดัน” เขาได้ยกน้ำขึ้นมาหนึ่งแก้วแล้วถามผู้ฟังว่า คุณคิดว่าแก้วนี้น่ะหนักไหม??? มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณถือมันนานแค่ไหน ก็ถ้าคุณถือแค่ซักนาทีนึง .. มันก็ยัง OK นะ ถ้าคุณถือจนชั่วโมงหนึ่ง .. นั่นก็จะทำให้ปวดแขนได้ แต่ถ้าถือไว้ซักวันหนึ่งล่ะ .. ที่นี้คุณจะต้องเรียกรถพยาบาลแน่ๆ มันก็น้ำหนักเท่าเดิมแหละนะ .. แต่ว่ายิ่งคุณถือไว้นานเท่าไหร่ก็ยิ่งหนักเท่านั้น ถ้าคุณแบกภาระนั้นไว้ตลอดเวลา , ไม่ช้าก็เร็ว เราก็จะไม่สามารถที่จะแบกรับมันได้อีก แล้วภาระนั้นก็จะเพิ่มขึ้น สิ่งที่คุณต้องการจะทำก็คือวางแก้วลง ผ่อนคลายซักครู่ แล้วค่อยถือมันอีกครั้ง เราต้องปล่อยวางภาระต่างๆ บ้าง แล้วเราจะได้รู้สึกสดชื่นขึ้น เพื่อที่จะสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ เมื่อกลับบ้านแล้ว จงวางภาระต่างๆที่ๆทำงานไว้ อย่าแบกภาระนั้นกลับไปด้วย  เพราะยังไงก็ตามคุณก็สามารถจะแบกมันได้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ .

ความรักของคนตาบอด

รูปภาพ
  คุณเคยเห็นคนตาบอดมั้ย ? คนตาบอด...ที่เดินไปไหนต่อไหนด้วยกันเป็นคู่....  คุณอาจเจอพวกเขาได้ ในที่ที่มีคนอยู่กันเยอะๆ  เช่น..ตลาดนัด...  พวกเขาไปที่นั่น เพราะหวังว่า... คงจะมี คนใจบุญ  ไปเดินอยู่ที่นั่นบ้าง...  คนสองคน...ที่จับมือกัน...ค่อยๆ เดินกระเถิบไปด้วยกันทีละนิด..ทีละนิด. เพราะต่างคน ต่างก็มองไม่เห็นอะไรกันทั้งคู่...  นอกจากไม้เท้าคนละอันแล้ว...ในมือพวกเขาถือวิทยุเก่าๆเครื่องนึง...  กับไมค์อีกอีกหนึ่งอัน...ที่ขาดไม่ได้  ก็คือขันอลูมิเนียม...  อาวุธสำคัญที่ใช้หากินอยู่ทุกวัน..  ผมไม่ คุ้นหู กับเพลงที่เขาร้องนักหรอก..  แต่ก็ดูว่าเขาตั้งใจร้องเหลือเกิน...  และดูเหมือนเขาก็ หวัง ว่าคุณจะต้องชอบมัน... ผมเห็นเขาจับมือกัน... วินาทีนั้น... ทำให้ผมนึกถึงอะไรบางอย่างที่ผมเคยมองข้ามมาตลอด..  คุณเคยนึกถึงความรักของ..คนตาบอด..หรือเปล่า....  ตนตาบอดรักกันได้ยังไงนะ... เพราะคนตาบอด...ไม่เคยรู้เลยว่า... คนรักของเขา..มีหน้าตาเป็นอย่างไร.. คนตาบอด..จะรู้จักก็เพียงจิตใจของคนรักของเขาเท่านั้น.  เมื่อเขามีความพอใจกันและกัน....  ไม่มีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี  ให้กังวลใจ...เพ

อีกมุมมองหนึ่งของการใช้ชีวิต : ปลาสด

รูปภาพ
คนญี่ปุ่นชอบเนื้อปลาสด แต่ทะเลหรือแหล่งน้ำแถบญี่ปุ่นนั้น  ไม่มีปลาชุกชุมมานานหลายทศวรรษแล้ว  ดังนั้น เรือประมงทั้งหลายจึงมีขนาดใหญ่ขึ้น  เพื่อให้สามารถหาปลาได้เพียงพอต่อการบริโภค  ชาวประมงออกไปหาปลาในน่านน้ำที่ไกลออกไป ยิ่งออกจากฝั่งไปไกล  ก็ยิ่งใช้เวลานานเวลานำปลากลับมา  ถ้าออกทะเลไปนานเกิน 2-3 วัน ปลาก็จะไม่สด  และคนญี่ปุ่นไม่ชอบรสชาติแบบนั้น  วิธีแก้ปัญหาก็คือ  บริษัทประมงทำการติดตั้งตู้แช่แข็งเอาไว้บนเรือ  พอจับปลาได้ก็เอาใส่ไว้ในตู้แช่แข็งตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ในทะเล  ทำให้พวกชาวประมงสามารถ ออกไปหาปลาได้ไกลจากฝั่งมากขึ้น  แต่ว่าคนญี่ปุ่นก็สามารถแยกความแตกต่าง  ในรสชาติของเนื้อปลาสดกับเนื้อปลาแช่แข็งได้อยู่ดี  และพวกเขาก็ไม่ชอบปลาแช่แข็งเสียด้วย ปลาแช่แข็งจึงมีราคาถูก  เมื่อเป็นเช่นนั้น บริษัทประมงจึงทำการติดตั้งแท้งค์น้ำ  แล้วเอาปลาที่จับได้ใส่ลงไป  แต่พอถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา และต้องโคลงเคลงอยู่ในแทงค์นานๆเข้า  ปลาก็ไม่ยอมว่าย มันอ่อนล้าแล้วก็เซื่องซึมลง  แม้จะยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม  โชคไม่ดีที่คนญี่ปุ่นก็ยังสามารถแยกความแตกต่าง  ในรสชาติของเนื้อปลาได้อยู่เหมือ

Booker T. Washington (ความสะอาด พัฒนาคน)

รูปภาพ
ความสะอาดเป็นความดีสากลที่ทุกคนยอมรับ และทุกคนก็สามารถทำได้ แต่บางครั้งกลับถูกมองข้ามไป เพราะคิดว่าไม่สำคัญ ทั้งที่ความสะอาดนั้น เป็นสิ่งที่มีค่า มีพลัง เชิดชูชีวิตเราได้ ในโลกนี้…จึงมีผู้คนมากมาย ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างงดงาม โดยเริ่มต้นจากความสะอาดนี่เอง ดังเช่นชีวิตของ ดร.บุกเกอร์ ที วอชิงตัน ชาวอเมริกันผิวดำ ผู้เกิดเป็นทาส ซึ่งแทบไม่มีโอกาสจะพบความเจริญได้เลย แต่แล้วในที่สุด เขากลับกลายมาเป็นบุคคลสำคัญ ผู้สร้างคุณประโยชน์ทางด้านการศึกษาให้กับประเทศชาติเป็นอย่างมาก จนถึงกับมีการสร้างอนุสาวรีย์ เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของเขา บุกเกอร์มีชีวิตวัยเยาว์ที่ลำบากแร้นแค้น ต้องทำงานหนักในไร้ฝ้าย ในเหมืองถ่านหินตั้งแต่อายุยังน้อย ต่อมาเขาได้งานเป็นเด็กรับใช้ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งคนงานทั้งหลายต่างพากันเข็ดขยาด เพราะผู้เป็นเจ้าของบ้านเป็นคนเข้มงวด เจ้าระเบียบ และรักความสะอาดมาก ณ บ้านหลังนี้ เขาได้ฝึกฝนตนเองให้มีนิสัยรักความสะอาด จนถึงขนาดที่ว่า หากเขาพบเศษกระดาษตามถนนหนทาง แม้เพียงเศษเล็กเศษน้อย เขาจะต้องเก็บมันทันที ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกซอกทุกมุมที่เขาดูแลจะต้องสะอาด ปราศจา

ข้อคิดดีๆจากคนตัดไม้

รูปภาพ
มีคนตัดไม้คนหนึ่ง นำฟืนไปขายให้แก่ร้านขายฟืนซึ่งร้านขายฟืน ก็ปฏิบัติต่อคนตัดไม้ดีมาก ดังนั้นคนตัดไม้จึงคิดอยากตอบแทน โดยการจะตัดไม้ให้ได้เป็นจำนวนมากๆ ในวันแรกคนตัดไม้ตัดไม้ได้ 20 ต้น แล้วนำมาให้ร้านขายฟืนซึ่งร้านขายฟืนก็ชมเชยและปฏิบัติต่อ คนตัดไม้อย่างดี แต่พอในวันที่ 2 คนตัดไม้ก็ตั้งใจจะตัดให้ได้มากขึ้นแต่ปรากฏว่ากลับตัดได้เพียง 18 ต้น ในวันรุ่งขึ้นก็กะว่าจะตัดให้ได้มากยิ่งขึ้นแต่ก็กลับเหลือ 16 ต้น ยิ่งนับวันผ่านไปเรื่อย ๆ ก็ตัดได้น้อยลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดคนตัดไม้ก็รู้สึกละอายใจ จึงไปกล่าวคำขอโทษกับทางร้านขายฟืน แต่เจ้าของร้านขายฟืนก็กลับถามคนตัดไม้ว่า คุณลับขวานครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ คนตัดไม้ตอบว่า ผมไม่มีเวลาหยุดลับขวานเลย เพราะขนาดไม่หยุดยังตัดไม้ได้น้อยขนาดนี้ ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกแก่คนตัดไม้ว่า คุณลองคิดดูสิว่าหากคุณหยุดลับขวานให้คม โดยเสียเวลาเพียงเล็กน้อย คุณอาจตัดไม้ได้มากกว่านี้ก็ได้ เปรียบได้กับการทำงาน ถ้าคุณก้มหน้าก้มตาทำโดยไม่หยุดพักหยุดคิด เปรียบได้กับคนตัดไม้ คุณก็จะล้าลงไปเรื่อย..  แล้วคุณล่ะ ได้หยุดพัก บ้างไหม? ได้อ่านเรื่องข้อคิดดีๆ ของ

ฉันชื่อ "โอกาส"

รูปภาพ
ได้อ่านบทความเก่าๆ เกี่ยวกับเรื่อง ฉันชื่อ "โอกาส" แล้ว ทำให้ตระหนักถึงเวลาที่ล่วงผ่านไปอย่างรวดเร็ว จึงขอนำมาแชร์ต่อ ให้เพื่อนๆ ได้อ่านพิจารณา ดังนี้ ฉันชื่อ "โอกาส" โปรดจงอย่าปล่อยให้ฉันผ่านไป ในเมืองหนึ่งของประเทศกรีก เคยมีรูปปั้นแกะสลักตั้งอยู่ในใจกลางเมือง แต่ปัจจุบันนี้ รูปปั้นนี้ไม่เหลือแล้วแม้แต่ซาก แต่สำหรับแผ่นจารึกที่บรรยายเกี่ยวกับรูปปั้นนั้นยังคงเหลืออยู่ คำบรรยายเขียนไว้ในรูปแบบการสนทนาระหว่างรูปปั้นกับคนที่เดินผ่านไปมา รูปปั้นเอ๋ย ท่านชื่ออะไร "ฉันชื่อโอกาส" ใครเป็นคนแกะสลักท่านขึ้นมา "ช่างแกะสลักชื่อ ลีซีปัส" ทำไมท่านจึงยืนเขย่งเท้า? "เพื่อบ่งบอกว่าฉันอยู่เพียงชั่วครู่ชั่วยาม" แล้วทำไมที่เท้าของท่านจึงมีปีก "เพื่อแสดงให้เห็นว่าฉันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว" แต่ทำไมผมด้านหน้าของท่านจึงยาวอย่างนี้ "ก็เพื่อให้คนที่พบฉัน จะได้จับฉวยไว้ได้ง่าย" แล้วทำไมหัวด้านหลังของท่านจึงล้าน ไม่มีผมแม้แต่เส้นเดียว" ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า เมื่อฉันผ่านไปแล้ว ก็ยากที่จะจับฉันได้ใหม่" จริงด้วย ทางด้านห

ปีกน้อย...ที่ไม่อาจโบยบิน

รูปภาพ
หลังจากชายคนหนึ่งพบรังไหมของตัวอ่อนผีเสื้อ เขาเฝ้าจับตาความคืบหน้ามาตลอด กระทั่งได้เห็นรอยปริขนาดเล็กปรากฏอยู่ที่ผิวภายนอก ชายคนนั้นจึงนั่งลง และเฝ้าจับตามองความเคลื่อนไหวของตัวอ่อนผีเสื้ออยู่นานหลายชั่วโมง เขาเห็นมันพยายามดิ้นรนจะพ้นจากช่องเล็ก ๆ ของรังไหมให้ได้ แต่เมื่อไม่สำเร็จ เจ้าตัวน้อยก็หยุดเคลื่อนไหว เหมือนจะยอมรับว่าไม่อาจขืนทำอะไรได้มากไปกว่านั้น เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะช่วยตัวอ่อนแล้ว... ชายคนนั้นจึงหยิบกรรไกรขึ้นมาตัดเปิดช่องรังไหมจนกว้างพอที่ตัวอ่อนจะสามารถอ อกมาได้อย่างง่ายดาย ตัวอ่อนผีเสื้อน้อยจึงออกมาเผชิญโลกทั้งสภาพร่างกายบวมกลม ตรงข้ามกับปีกที่มีขนาดเล็กนิดเดียว! เขาก็เฝ้าจับตามองตัวอ่อนนั้นต่อไปด้วยความหวังว่า อีกไม่ช้า... ปีกของมันจะขยายใหญ่ขึ้น และแข็งแรงพอจะพยุงร่างกายมันได้เมื่อถึงเวลาอันควร แต่เมื่อเวลาผ่านไป... กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง! ผีเสื้อน้อยต้องเดินและคลานไปมาทั้งชีวิต ด้วยสภาพร่างกายบวมกลมและปีกแห้งเล็กที่ไม่เคยมีโอกาสจะบินได้ ภายใต้การดูแลอย่างอ่อนโยนของชายผู้หวังดี สิ่งที่ชายคนนี้ไม่เคยเข้าใจก็คือ ธรรมชาติได้กำห

วีรกรรมของแม่

รูปภาพ
ผมทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงอยู่ในนครนิวยอร์ค ...บางครั้งอาชีพนี้ก็ทำให้หดหู่ใจ  เพราะคราใดที่ย่านธุรกิจหรือบ้านถูกไฟเผาผลาญ คุณจะพลอยหัวใจสลายไปด้วย พนักงานดับเพลิงเจอเรื่องน่าสะพรึงกลัวมานักต่อนัก และบางครั้งก็ต้องเจอความตาย ...แต่วันที่ผมเจอเจ้าแมว สการ์เล็ต เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะมันเป็น เรื่องของชีวิตและความรัก วันนั้นเป็นวันศุกร์...  เรารุดออกไปดับไฟตามที่ได้รับแจ้งเมื่อตอนเช้าตรู่ว่ามีไฟไหม้ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง  ระหว่างที่เตรียมอุปกรณ์อยู่นั้น... ก็ได้ยินเสียงแมวร้อง  แต่ผมหยุดมือไม่ได้ ต้องดับไฟก่อนแล้วจึงจะหาแมวได้ ไฟไหม้ครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตมาก  เราจึงมีหน่วยงานอื่นๆมาช่วยสนับสนุนด้วย ทั้งฝ่ายตะขอเกี่ยวและบันได  เราได้รับแจ้งว่า ทุกคนในอาคารหลังนี้ออกมาได้โดยปลอดภัยแล้ว  ผมเองก็หวังเช่นนั้น  เพราะที่ปั๊ม มีแต่เปลวไฟเต็มไปหมด ใครขืนเข้าไปกู้ภัยคงจะไม่รอดแน่  กว่าจะดับไฟได้ก็คงกินเวลานานมาก และต้องใช้กำลังคนมากมาย ถึงตอนนี้มีเวลามองหาแล้วว่าเสียงแมวมาจากไหน  ควันไฟยังพวยพุ่งออกมาจากตัวปั๊มเต็มไปหมด  ผมมองอะไรไม่ค่อยเห็น ได้แต่เดินตามเสียงแ

จดหมายจากลูก

รูปภาพ
ฉบับที่1,712  วันที่16 พฤษภาคม  ถึงคุณแม่ที่เคารพรัก  แม่ครับสบายดีมั้ยครับ ตอนนี้ ที่ๆผมอยู่อากาศหนาวมาก ที่นี่เป็นยังไงบ้างครับแม่ แม่ครับผมมีข่าวดีจะบอกครับตอนนี้ผมได้เลื่อนตำแหน่งแล้วครับ ดีใจมั้ยครับแม่ ผมกับเพื่อนฉลองกันยกใหญ่เมากันเละเลยครับ ขอวันเดียวนะครับแม่ที่ผมผิดคำพูด ที่บอกกับแม่ว่าจะเลิกกินเหล้า (ขอโทษจริงๆนะ แม่นะ) แม่ครับผมมีเรื่องจะปรึกษาแม่อีกเรื่อง ตอนนี้ผมแอบชอบผู้หญิงอยู่คนนึง เธอน่ารักมากครับแม่ ท่าทางเธอเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยดูเป็นแม่ศรีเรือนมากเลยครับ อยากให้แม่ได้เห็นจัง แต่ไม่รู้จะจีบเธอได้รึเปล่า เอาใจช่วยผมนะครับจะได้มีหลานให้แม่เร็วๆไง ช่วงนี้ไอ้ ปื้ด เพื่อนผม(แม่คงจำมันได้นะ) มันก็คอยไปๆมาๆหาผมบ่อยๆ มันเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆครับแม่ ตอนไม่สบายก็ได้มัน นี่แหละที่คอยดูแลผมตลอด ไม่ต้องห่วงนะครับแม่ แล้วก็ไอ้ดุ๊กดิ๊กมันออกลูกมาอีกคอกเบ้อเริ่มเลยแม่ ไม่รู้ว่าผมจะเลี้ยงลูกมันไหวมั้ยเนี่ย ตัวมันด่างๆเหมือนไอ้ดุ๊กดิ๊กเลย มีตัวผู้ 5ตัว ตัวเมีย 3ตัวครับแม่ ผมว่าจะแจกเขาให้หมด แม่ครับผมอยู่ที่นี่รู้สึกเหงานิดหน่อย คิดถึงแม่มาก เมื่อตอนเด็กๆแม่ชอบมาห่มผ้าให้ผม คอ

นาฬิกาที่หายไป

รูปภาพ
ชาวนาคนหนึ่ง หลังจากไปทำความสะอาดคอกม้า ออกมาก็พบว่านาฬิกาพกของตน ได้หล่นหายไปเสียแล้ว นาฬิกาพกเรือนนี้มีความหมายต่อเขามาก ด้วยเป็นของขวัญที่แม่ของเขาทิ้งไว้ให้ เขารีบวิ่งไปที่คอกม้ารื้อหาจนทั่วบริเวณแทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็หาไม่พบ เขาเดินออกมาจากคอกม้าด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว มองไปเห็นมีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกันอยู่แถวนั้น เขาจึงได้คิดว่าอาจเป็นเพราะตัวเองแก่แล้ว หูตาฝ้าฟางทำให้หาไม่เจอ แต่เด็กๆหูตายังแหลมคมน่าจะหาเจอก็เป็นได้ เขาจึงเรียกเด็กๆมาแล้วบอกว่า " เด็กๆ ถ้าใครหานาฬิกาพกของลุงเจอ ลุงจะให้เงินคนนั้นหนึ่งเหรียญ "   เด็กๆ พากันวิ่งกรูเข้าไปในคอกม้า จนเวลาผ่านไปนานโข ตอนที่เด็กๆ เดินกลับออกมาจากคอกม้าทีละคนต่างก็มีสีหน้าผิดหวัง ที่หานาฬิกาพกไม่เจอ ขณะที่ชาวนากำลังถอดใจคิดจะเลิกหานั่นเอง ก็มีเด็กคนหนึ่งมากระซิบกระซาบบอกกับเขาว่า "ผมจะลองเข้าไปหาดูอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ขอให้ผมเข้าไปคนเดียวเท่านั้น" ชาวนามองตามหลังเด็กชายไปอย่างไม่มั่นใจ คิดในใจว่า...พวกเราแทบจะพลิกคอกม้าหายังไม่เจอ...แล ้วลำพังเด็กคนเดียว จะหาเจอได้อย่างไร... เด็กคนนั้นเข้าไปตั้งนานก็ยังไม่กลับออ

"ความเพียร" คือตัวพยากรณ์ความสำเร็จ

รูปภาพ
แองเจลา ลี ดั๊กเวิร์ธ เธอยอมทิ้งงานตำแหน่งสูงในวงการที่ปรึกษา มาเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ให้เด็กเกรดเจ็ดในโรงเรียนเทศบาลในมหานครนิวยอร์ก หลังทำการสอนมาอย่างหนัก ทำให้เธอรู้ว่า “ไอคิว” ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เด็กประสบความสำเร็จ แต่ “ความเพียร” ต่างหากคือตัวพยากรณ์ความสำเร็จ ลองมาฟังแนวคิดของเธอกัน

การกลับมาเกิดใหม่ ของทหารผ่านศึกผู้พิการ

รูปภาพ
เมื่อพลทหารอาเธอร์ บัวแมน กลับบ้าน หลังจากได้รับบาดเจ็บในสงครามอ่าว แพทย์วินิจฉัยว่า เขาต้องใช้ไม้เท้าเดินไปตลอดชีวิต เขาได้รับบาดเจ็บที่หลังและหัวเข่าเรื้อรัง เนื่อง จากการฝึกกระโดดร่มอย่างหนัก ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา  อาเธอร์ คิดว่าเขาจะเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต และการไม่ได้ออกกำลังกายทำให้น้ำหนักเขาเพิ่มเป็น 297 ปอนด์ แต่เมื่อตอนอายุ 47 ปี ทหารผ่านศึกผู้ท้อแท้ ได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ เรื่อง DDP โยคะ เขาได้พบกับครูฝึก และเริ่มฝึกอย่างต่อเนื่องภายใน 10 เดือน ไม่น่าเชื่อ เขาสามารถกลับมาเดินและวิ่งได้อีกครั้ง เหมือนได้กลับมาเกิดใหม่ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ล้มเหลวในชีวิต อย่าคาดหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นไปตลอด ขอเพียงอย่ายอมแพ้ ลองมาดูวีดีโอของเขาที่นี่

Cast Away จากภาพยนต์สู่เรื่องจริง : การต่อสู้ของมนุษย์เพื่อเอาชีวิตรอดกลางมหาสมุทร

รูปภาพ
ได้อ่านข่าวของการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด บนกลางมหาสมุทรแปซิฟิกอันเวิ้งว้าง ของชาวประมงชาวแมกซิโก ไม่ใช่อยู่แค่วันสองวัน แต่อยู่เป็นปี อ่านแล้วทึ่งมาก ว่าความสามารถมนุษย์ ไม่มีขีดจำกัดจริงๆ ยังมีปัญหาคาใจอีกมากมาย ที่ยังไม่ได้รับคำตอบอย่างกระจ่างชัด จนกลายเป็นเรื่อง “เชื่อหรือไม่” ไปแล้ว ในเรื่องราวปฏิหาริย์ของชาวประมงกระทาชาย ชื่อว่า นายโฮเซ ซัลวาดอร์ อัลวาเรนกา ชาวเอลซัลวาดอร์ เจ้าของเรื่องเหลือเชื่อ ใช้ชีวิตอยู่บนเรือประมงลำเล็ก ซึ่งเป็นเรือไฟเบอร์กลาสความยาวเพียง 24 ฟุต อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ท่ามกลางคลื่นลมและแสงแดดที่แผดกล้า มานานถึง 13 เดือน ตั้งแต่ปลายปี 2555 เนื่องจากเครื่องยนต์ของเรือขัดข้องขณะกำลังหาปลาอยู่ในเม็กซิโก จนกระทั่งเรือถูกคลื่นซัดไปติดหินโสโครกที่เกาะเอบอน ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ ในหมู่เกาะมาร์แชลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ห่างจากเม็กซิโก จุดที่เขาหาปลาถึง 12,500 กิโลเมตร และที่น่าทึ่ง เหลือเชื่อ คือนายอัลวาเรนกา วัย 37 ปี “รอดชีวิต” ซึ่งนี่คือข้อสงสัยที่คาใจของหลายคน แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ในทางทฤษฎีแล้ว เรื่องแบบนี้ มีค

ธรรมะข้างทาง (Road-side Dhamma)

รูปภาพ
ระหว่างที่เดินทางผ่านมหาวิ ทยาลัย อซูซ่า แปซิฟิก มหาลัยเอกชนประจำเมืองอซูซ่ า ที่วัดตั้งอยู่ ระหว่างติดไฟแดงอยู่นั้น ผมเหลือบเห็นคุณลุงคนหนึ่ง กำลังนอนร้องเพลงอยู่ที่ม้า นั่งรอรถบัส อาบแดดยามเช้า อย่างมีความสุข เขาใส่เสื้อร่มสีฟ้า กางเกงสีครีม รองเท้าสีน้ำเงิน ผมเห็นลุงแล้ว อดมีความสุขตามไม่ได้ ผู้คนหลากหลายรอบตัวเรา ต่างกระเสือกกระสน ดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ ให้มีค วามเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีกิน มีใช้มีความสุข แต่ส่วนใหญ่กลับแลกกับความท ุกข์ ความกดดัน สภาพของสังคมที่แก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่น กัน จะได้เงินมาเพื่อแลกกับความ เหนื่อยนั้น เลือดตาแทบกระเด็น ลุงคนนี้มีอาชีพที่คนในอเมร ิกันเรียกกันว่า " Homeless" หรือ ไม่่มีบ้าน อาศัยอยู่น้นเอง.. ผู้มีอาชีพ Homeless ในอเมริกาก็เทียบกับอาชีพ ขอทาน ในบ้านเรานี่เอง แต่ความเป็นอยู่ของ Homeless ที่เอมริกานั้นดีกว่าคนในบ้ านเรามาก สังเกตจากเสื้อผ้า รองเท้า ที่ใส่ ใหม่มากๆ ผมยังนึกอิจฉาเล็กเลยๆ ว่า "แหม รองเท่้าเรายังขาดๆอยู่เลย"  ก็เป็นอย่างนี้จริงๆ ทางรัฐบาล ก็พยายามให้ความช่วยเหลือคน homeless กลุ่มนี้ด้วยการให้อาหารฟรี บ้าง ในวันสำค

ทำไมต้องให้เงินพ่อแม่ ?

รูปภาพ
...เงินเดือนให้แม่เดือนละ 300.- บาท...  พอกราบคุณย่าเสร็จ ผมก็หันมาคุยกับอาจารย์ ถามว่า….อาจารย์กำลังทำอะไรครับ  อาจารย์ตอบว่าผมกำลังตัดรายจ่ายอยู่...คุณทองคำ  ผมต้องจ่าย..ค่าแม่ครัว..คนขับรถ คนสวน  ค่าใช้จ่ายในบ้านและให้แม่อีกเดือนละ 300 บาท ตอนนี้  รายได้กับรายจ่ายมันไม่ค่อยสัมพันธ์กันต้องตัดรายจ่ายลงบ้าง  ผมก็ทำหน้าที่เป็น Advisor บอกว่า เงินเดือนที่ให้แม่ 300 นี่ตัดได้นี่ครับ  อาจารย์หันหน้ามามองผม ...แล้วยิ้ม...ทำไมล่ะ?  ผมบอกว่า อาหาร 3 มื้อ ..อาจารย์ก็จัดให้..เรียบร้อย  เสื้อผ้า..อาจารย์ก็ซื้อให้ใหม่..ปีละ 3 ชุด ..เรียบร้อย  เจ็บป่วย ไม่สบาย ..อาจารย์ก็พาหมอมาฉีดยาให้ เรียบร้อย  เพราะฉะนั้น เงินเดือน 300 นี่ ตัดได้ครับ  ตัดเงินเดือนแม่ 300.-บาท ไม่ได้เด็ดขาด  ท่านบอกว่า ตัดไม่ได้เด็ดขาด”...คุณทองคำ  300 บาทนี่ สำคัญที่สุด สำคัญยังไง?  เงิน 300 บาทนี่ เป็นเงินสำหรับ  เลี้ยงหัวใจแม่…  300.-บาท คือเงินเลี้ยงหัวใจแม่  ผมฟังแล้ว...สะอึก โอ...นี่เป็นเงินเลี้ยงหัวใจแม่  พวกเรา เคยได้ยินไหมครับ?  ผมนึกว่า ให้อาหาร...เสื้อผ้า.. เจ็บป่วยก็เอาหมอมารักษา  น่าจ