การทำหน้าที่พลเมืองดีใครว่าง่าย...(เรื่องจริงของพลเมืองดีผู้หนึ่ง)


ความจริงผมตัดสินใจแล้วว่าคงไม่ไปเลือกตั้ง เพราะต้องเดินทางไกลเหลือเกิน จะนั่งเครื่องบินก็แพง นั่งรถก็ลำบาก และไม่เคยเข้าไปในตำบลป่าแป๋ อ.แม่แตง สิบกว่าปีมาแล้ว  และยังไม่หายป่วยดีนัก อยากจะพักก่อน แต่ด้วยหัวใจรักชาติ แรงเชียร์ของเพื่อนๆ วันเสาร์ ห้าโมงเย็นผมตัดสินใจเก็บกระเป๋า ขึ้นไปเลือกตั้งทันที 
พี่น.ให้ยืมรถเก๋ง ให้พี่พ.ช่วยขับมาส่งที่สถานี บขส. รังสิต. ลงรถแล้วให้พี่พ.กลับเลย ผมเดินไปหาตั๋ว ได้ตั๋วรถทัวร์ บขส.ธรรมดาสี่ทุ่ม ดูเวลาแล้ว เหลืออีกหลายชั่วโมง จึงจับแท็กซี่กลับมารอที่พักก่อน  สามทุ่มพี่จ.ไปส่งที่ บขส.อีกที สี่ทุ่มรถทัวร์มาตียาวขึ้นเชียงใหม่ 
ถึงอาเขต 8โมงเช้า จับรถแดงเข้าตลาดวโรรส เติมพลังอาหารเช้าเสร็จ ขึ้นรถสองแถวสีขาวตียาวขึ้นแม่แตง ลงตลาดแม่มาลัยประมาณ 10 โมงครึ่ง จับรถเมล์ท่าตอนตียาวไปหาพี่ป.ที่ปิงโค้ง ถึงปิงโค้งเที่ยง พี่ป.เอารถออกมารับ เข้าไปกินข้าวก่อน แล้วค่อยไปเลือกตั้ง บังเอิญพี่ป.ยุ่งมาก กว่าจะออกรถพาผมไปศูนย์เลือกตั้งได้ก็เลยบ่ายครึ่งแล้ว แซงทุกคัน ตัดทุกโค้ง 
ถึงแม่แตงบ่ายสองครึ่ง จอดถามทางเข้าป่าแป๋ มอเตอร์ไซด์บอกเข้าไปเถอะ อีกประมาณ 30 กิโล เส้นทางไปปาย โอ้จวนเจียนเหลือเกินกับเวลาที่เหลืออยู่  ขึ้นลงเขาอยู่หลายลูก พี่ป.เฆี่ยนปิ๊กอัพคู่ชีพเต็มที่ แซงทุกคัน ตัดทุกโค้ง  จอดถามข้างทางอีกทีว่าศูนย์เลือกตั้งโรงเรียนวัดปางมะกล้วยอยู่ไหน แม่ค้าข้างทางบอกอีก 22 กิโล เหลือเวลาอีก 20 นาทีก่อนจะถึงสามโมง พี่ป.เหยียบเต็มที่จริงๆ
จนผมต้องเตือนว่า ไปเลือกตั้งไม่ทันยังไม่สำคัญเท่าเรามาแล้วไม่ได้กลับนะ พี่ป.หัวเราะแต่ก็ไม่ยอมถอนคันเร่งอยู่ดี  เข้าเขตป่าแป๋รีบจอดรถถามที่ศาลาขางทาง ว่าศูนย์เลือกตั้งโรงเรียนวัดปางมะกล้วย อยู่ตรงไหน ป้าที่นั่งอยู่ศาลาบอกว่าเลยมาแล้วกิโลนึง ให้เลี้ยวรถ กลับเข้าในหมู่บ้าน ดูนาฬิกา 3โมงตรง ตีรถกลับมาถึงศูนย์เลือกตั้ง


สามโมงห้านาที ผมคว้าบัตรประชาชน โดดลงจากรถ วิ่งเข้าคูหาเลือกตั้ง ตะโกนดังๆ ผมมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งครับ ทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียว แล้วพูดออกมาพร้อมๆกันว่า หมดเวลาแล้ว ผมตะโกนบอกเขาว่าขอให้ผมได้ทำหน้าที่พลเมืองดีเถอะครับ แค่ห้านาทีเอง ผมมาจากกรุงเทพ มาเลือกตั้งโดยเฉพาะ ยังไม่ได้พักเลย  
กรรมการคนหนึ่งหันนาฬิกามาให้ผมดู บอกว่าเลยมาห้านาทีแล้ว ศูนย์ปิดแล้ว เสียใจด้วย ให้คุณเลือกไม่ได้ ผมนึกในใจ ก็ผมมีรายชื่อ พวกคุณก็ยังอยูครบ บัตรก็มี หีบก็อยู่ แค่ให้ผมหย่อนบัตรทำไมไม่ได้ เป็นพลเมืองดีทำไมมันยากจริงๆ
พี่ป.ตบบ่าเบาๆบอก ช่างเถอะ ยังไงเราก็มาจนถึงแล้ว  เมื่อเขาไม่ให้เลือก  ไม่อยากให้เราใช้สิทธิ์ เราก็กลับ อย่างน้อยๆเขาก็จะได้รู้ว่าเรารักชาติแค่ไหน นายตำรวจยศร้อยตรีคนนึงที่มานั่งเฝ้าอยู่เดินมาหาผมแล้ว ส่งยิ้มทักทายให้กำลังใจ ผมยิ้มตอบ
แล้วเดินกลับมาขึ้นรถเงียบๆ แม้จะรู้สึกเสียใจ แต่ลึกๆแล้วอดภาคภูมิใจตัวเองไม่ได้ ว่าคนที่พยายามด้วยความรักชาติขนาดนี้ ทั้งประเทศจะมีสักกี่คน หันไปบอกพี่ป.แล้วก็หัวเราะออกมาพร้อมๆกัน...


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Cast Away จากภาพยนต์สู่เรื่องจริง : การต่อสู้ของมนุษย์เพื่อเอาชีวิตรอดกลางมหาสมุทร

ผมมีอะไรเล่าให้ฟัง กับเงิน 800 บาทกินทั้งเดือน...สำหรับคนที่ท้อแท้หาทางออกกับชีวิตไม่ได้

ฉันชื่อ "โอกาส"