บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2014

การเกิดใหม่ในโลกใบเก่าของผม (My Rebirth in The Old World)

รูปภาพ
ตอนที่ 1.แม่สีในใจ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “ การได้อัตภาพป็นมนุษย์นั้นเป็นของยาก แต่การดำรงตนให้สมกับการเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากยิ่งกว่า”  เป็นพุทธสุภาษิตที่เราเคยได้ยินมาบ้าง ไม่มาก ก็น้อย  น้อยคนนักที่จะตระหนักถึงพุทธสุภาษิตอันนี้  เพราะคนส่วนใหญ่มองว่า คนเราเกิดกันมากมายก่ายกอง แทบทุกวัน  สถิติในปี 2006 พบว่า มีเด็กเกิดประมาณ  360,000 คน ต่อวันทั่วโลก  แต่ชีวิตอื่นๆที่อยู่กับมนุษย์ เช่น มด แมลง สัตว์ต่างๆ มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งก็คงไม่ต้องพูดถึงว่า สัตว์เหล่านี้จะมีอัตราการเกิดต่อวันเท่าไหร่  คำตอบก็คือ มากมายมหาศาลกว่าอัตราการเกิดของมนุษย์อย่างแน่นอน  ฉะนั้นเราก็มิอาจปฏิเสธได้ว่า  การเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากเย็นแสนเข็ญเพียงไร  และการเกิดแต่ละครั้งก็นำมาซึ่งการเสี่ยงเป็น เสี่ยงตาย ของมารดา ที่ต้องทนอุ้มท้องลูกนานกว่า 9 เดือน และให้กำเนิดลูกออกมาดูโลกอย่างปลอดภัย  และมีชีวิตรอดอยู่ในโลกใบนี้อย่างมีความสุข แต่ชีวิตไม่ได้เป็นดั่งที่เราคาดหวังดังที่เราตั้งใจไว้  เหตุเพราะมนุษย์เกิดมาภายใต้กฏแห่งกรรม ซึ่งเป็นกฏธรรมชาติที่มามีแต่ดั้งเดิม  ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า “ สั

ใจเปลี่ยนได้ทุกสิ่ง ( Everything is possible with the mind power)

รูปภาพ
ตอนที่ 1 ใจเป็นใหญ่ ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ หากเราสังเกตดีๆ จะพบว่าในชีวิตประจำวันเรานั้น มักจะวนเวียนอยู่กับเรื่องของใจ อยู่ตลอดเวลา บางทีเราก็สังเกตได้ บางทีเราก็ลืมไปบ้าง มีคำโบราณมากมายที่พูดถึงเรื่องของใจไว้ เช่น ใจหายใจคว่ำ ,ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว , ตกใจ, ใจตก, ไม่เข้าใจ, ใจคอไม่ดี, ปันใจ, ดีใจ, เสียใจ, เศร้าใจ, ใจสั่น, สิ้นใจ เป็นต้น คำโบราณเหล่านี้ ไม่ใช่ถูกใช้แบบลอยๆ แต่ล้วนแล้วแต่มีความหมายลึกซึ้ง ที่เราคาดไม่ถึง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เคยตรัสไว้ชัดเจน ว่า “ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ” และพระอริยสาวก ตลอดจนครูบาอาจารย์นักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ต่างเข้าใจในสิ่งที่พระองค์ค้นพบ นำมาถ่ายทอด จากคนยุคแรก จนถึงปัจจุบัน ฉะนั้น คำที่เกี่ยวข้องด้วย ใจ จึงเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่ในปัจจุบัน น้อยคนนักจะซาบซึ้งถึงคำต่างๆเล่านี้ หากไม่ได้ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ จนเกิดปัญญาเข้าใจเรื่องของใจ  ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจ ( ใจที่ถูกสนเข้าไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เหมือนการสนเข็ม) ในเรื่องของใจ แม้จะไม่ใช่นักปฏิบัติธรรมตัวยง ที่บรรลุธรรม มีฤทธิทางใจ เหมือ

ผมมีอะไรเล่าให้ฟัง กับเงิน 800 บาทกินทั้งเดือน...สำหรับคนที่ท้อแท้หาทางออกกับชีวิตไม่ได้

รูปภาพ
เงิน 800 บาทกินทั้งเดือน Cr : http://pantip.com/topic/31546057 จะเล่าอะไรให้ฟังนิดนึงครับ พอดีเห็นกระทู้ http://pantip.com/topic/31544782 แล้วนึกถึงตัวเองตอนมาหางานทำ กทม.เมื่อสองปีที่แล้ว (ทั้งหมดนี่ คือเรื่องจริง 100% ที่เกิดขึ้นกับผม) ประมาณสองปีก่อน ผมตกงานอยู่ที่ ตจว. ค้างค่าเช่าบ้านเค้า(เดือนละ 1200 บาทก็ยังหาไม่ได้) เลยมาหางานทำที่ กทม. เพราะงานที่ ตจว.หายากมากๆ  มีเงินติดตัวมาทั้งหมด 2 พันบาทถ้วน (เอามือถือ เอา ram Hdd ไปขาย)  โทรศัพท์เอาอันเก่าที่หน้าจอแตก มองอะไรไม่เห็น เอามาใช้ชั่วคราวก่อน เพื่อโทรหาลูกเมียที่บ้าน หอบเสื้อผ้า กระเป๋า มา กทม.คนเดียว ลูกเมีย ทิ้งไว้ที่ ตจว. เป็นการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่สุดในชีวิตเลย  มาเพื่อวัดดวงกันเลยจริงๆ นั่งรถไฟฟรีตั้งแต่ ตี 4 มาลง กทม. ประมาณ 8 โมงเช้า นั่งรถเมล์ฟรีต่อมายังย่านที่คิดว่า ค่าเช่าห้อง ค่าใช้จ่ายถูกๆ ที่เล็งไว้ก็คือ ประชาอุทิศ พระประแดง สุขสวัสดิ์ ทุ่งครุ (หาข้อมูลไว้ก่อนแล้วว่าแถวนี้ ค่าเช่าถูก โรงงานเยอะน่าจะมีงานให้ทำเยอะเช่นกัน ) ผมไปเดินหางานร้านคอม ร้านของชำ โรงงาน ปั้มน้ำมัน ร้านอาหาร คาร์แคร์ ฯล

บะหมี่น้ำหนึ่งชาม

รูปภาพ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 29 ปีที่แล้ว วันที่ 31 ธันวาคม 2528 ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ร้านบะหมี่ " ฮอกไก " บนถนนซัปโปโร การกินบะหมี่โซบะในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้นเป็นประเพณีของชาวญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ร้านบะหมี่ขายดีในวันสิ้นปี "ร้านฮอกไก" นี้ก็เช่นกัน ในวันนี้คน แน่นร้านแทบทั้งวัน จนกระทั่งถึงเวลา 22.00 น. คนก็เริ่มน้อยลง โดยปกติแล้วบน ถนนสายนี้คนจะแน่นขนัดไปจนถึงเช้าตรู่ แต่วันนี้ทุกคนจะต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปต้อนรับปีใหม่กัน ดังนั้นถนนสายนี้จึงปิดร้านเร็วกว่าปกติ เถ้าแก่ของร้าน "ฮอกไก" เป็นคนซื่อ และเถ้าแก่เนี้ยก็เป็นคนอัธยาศัยใจคอดี  ในคืนวันส่งท้ายปีเก่า พอลูกค้าคนสุดท้ายกลับไปในขณะเถ้าแก่เนี้ยก็จะปิดร้าน  ประตูร้านก็ถูกเปิดออกอย่างเบา ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งพาเด็กชายสองคน   คนหนึ่งประมาณ 6 ขวบกับอีกคนหนึ่งประมาณ 10 ขวบเข้ามาในร้าน เด็กชายทั้งสองคนสวมชุดกีฬาใหม่เอี่ยมเหมือนกันทั้งสองคน ส่วนหญิงคนนั้นสวมโอเวอร์โค้ทลายสก๊อตเก่า ๆ เชยๆ "เชิญนั่งครับ" เถ้าแก่ร้องทักทายออกมา หญิงคนนั้นเอ่ยปากอย่างขลาดกลั

5 วัน 5 คืน เพื่อคืนสันติภาพที่แท้จริง :(5 days, 5 nights to bring back a real peace)

รูปภาพ
ตอนที่ 1: "3000 ไมล์-4,500 กิโลเมตร ภายใน 5 วัน” ก่อนผมจะเป็นอารามบอยประจำอยู่ที่วัดพระธรรมกายนิวเจอร์ซี่ ในเดือนกันยายน 2543 ผมถูกหลวงพ่อส่งมาร่วมทีมกับพี่ๆอีก 4 ชีวิต ที่ต่างก็เป็นอารามบอยและอารามเกริล ( Arram Boy and Arram Girl) เหมือนกัน เราทั้ง 5 ชีวิตมาเพื่อภารกิจทำอเมริกาให้รู้จักสมาธิและความสุขภายใน ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเราจะไปนำฝรั่งนั่งสมาธิอะไรนะครับ แต่เรามาเป็นทีมสนับสนุนครูสอนสมาธิ 2 ท่านที่หลวงพ่อมอบหมายให้มาทำหน้าที่นี้ ครูโรเบิร์ต มาวสัน และครู ดอน แบรี่ ทั้งสองท่านเป็นชาวนิวยอร์ค ที่มีผลการนั่งสมาธิที่ดีในระดับที่หลวงพ่อรับรองให้สอนคนอเมริกันได้ เรา 5 ท่านจะว่าไปก็เป็นผู้พาครูทั้งสองคน ไปสอนสมาธิให้กับคนอเมริกันให้มากที่สุด เพื่อให้ชาวตะวันตกรู้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่เกิดจากการเสวยความสุขจากวัตถุสิ่งของและความสะดวกสบายต่างๆ แต่คือความสงบของใจ ที่เป็นเสมือนขุมพลังชีวิตที่พามนุษย์ทุกคน ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต และจะเป็นความสุขที่จีรัง ยั่งยืนนั่นเอง ฉะนั้นจึงเป็นที่มาของการเดินทาง 5 วัน 5 คืน เพื่อเดินทางไปสอนสมาธิให้กับชาวอเมริกัน