วีรกรรมของแม่

ผมทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงอยู่ในนครนิวยอร์ค
...บางครั้งอาชีพนี้ก็ทำให้หดหู่ใจ 
เพราะคราใดที่ย่านธุรกิจหรือบ้านถูกไฟเผาผลาญ คุณจะพลอยหัวใจสลายไปด้วย
พนักงานดับเพลิงเจอเรื่องน่าสะพรึงกลัวมานักต่อนัก และบางครั้งก็ต้องเจอความตาย
...แต่วันที่ผมเจอเจ้าแมว สการ์เล็ต เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะมันเป็น เรื่องของชีวิตและความรัก

วันนั้นเป็นวันศุกร์... 
เรารุดออกไปดับไฟตามที่ได้รับแจ้งเมื่อตอนเช้าตรู่ว่ามีไฟไหม้ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง 
ระหว่างที่เตรียมอุปกรณ์อยู่นั้น... ก็ได้ยินเสียงแมวร้อง 
แต่ผมหยุดมือไม่ได้ ต้องดับไฟก่อนแล้วจึงจะหาแมวได้
ไฟไหม้ครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตมาก 
เราจึงมีหน่วยงานอื่นๆมาช่วยสนับสนุนด้วย ทั้งฝ่ายตะขอเกี่ยวและบันได 
เราได้รับแจ้งว่า ทุกคนในอาคารหลังนี้ออกมาได้โดยปลอดภัยแล้ว 
ผมเองก็หวังเช่นนั้น 
เพราะที่ปั๊ม มีแต่เปลวไฟเต็มไปหมด ใครขืนเข้าไปกู้ภัยคงจะไม่รอดแน่ 

กว่าจะดับไฟได้ก็คงกินเวลานานมาก และต้องใช้กำลังคนมากมาย
ถึงตอนนี้มีเวลามองหาแล้วว่าเสียงแมวมาจากไหน 
ควันไฟยังพวยพุ่งออกมาจากตัวปั๊มเต็มไปหมด 
ผมมองอะไรไม่ค่อยเห็น ได้แต่เดินตามเสียงแมวร้องไปเรื่อยๆ
...
จนถึงบริเวณบาทวิถีห่างจากหน้าปั๊มราวๆ 5 ฟุต เห็นจะได้ 
ก็เห็นลูกแมวตัวเล็กๆท่าทางอกสั่นขวัญแขวนสามตัวกอดกันกลมและส่งเสียงร้องกันระงม 
พอมองไปผมก็เจออีกสองตัว อยู่บนถนนตัวหนึ่ง 
ส่วนอีกตัวอยู่อีกฝั่งถนนหนึ่ง

แมวพวกนี้คงจะติดอยู่ในอาคารเป็นแน่ เพราะขนมันถูกไฟลนเสียจนโกร๋น 
ผมตะโกนขอลังสักใบและมีนักมุงหามาให้ใบหนึ่ง 
ผมจับลูกแมวทั้งห้าตัวใส่ในลัง และอุ้มลังไปพักไว้หน้าระเบียงบ้านหลังหนึ่งแถวนั้น 
ผมมองหาแม่แมวสังหรณ์ว่า 
แม่แมวคงจะเข้าไปในปั๊มที่ไฟกำลังไหม้และทยอยคาบลูกออกมาวางไว้บนบาทวิถีทีละตัว
ลองคิดดูก็แล้วกันว่าต้องวิ่งเข้าไปในกองไฟที่กำลังลุกโชติช่วงถึงห้าครั้งห้าครา 
จากนั้นก็ต้องพยายามให้ลูกแมวไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ไกลอาคารออกไปทีละตัวๆเช่นกัน 
แต่แม่แมวดูเหมือนจะยังขนลูกออกมาไม่หมด
...แล้วแม่แมวไปอยู่เสียที่ไหน??

ตำรวจคนหนึ่งชี้บอกว่า เห็นแมวเข้าไปในที่ร้างตรงที่ผมเจอลูกแมวสองตัวสุดท้าย
...
แม่แมวอยู่ที่นั่นจริงๆ มันนอน ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด 
แผลไฟไหม้ดูสาหัส ตาเป็นแผลพองจนลืมไม่ขึ้น 
อุ้งเท้าดำเพราะถูกไฟลน ขนถูกไฟลามเสียจนเห็นหนัง บางแห่งจะเห็นเนื้อแดงเหวอะหวะ 
ตัวอ่อนปวกเปียกจนเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้
ผมเดินไปหามันช้าๆค่อยๆพูดกับมันเบาๆ มันคงจะเป็นแมวป่า 
ผมไม่อยากให้มันตกใจ
...เมื่อผมอุ้มมันขึ้นมา แม่แมวร้องอย่างเจ็บปวด 

กลิ่นขนและเนื้อหนังของมันส่งกลิ่นเหม็นไหม้ มันไม่กระดุกกระดิก 
มันพยายามลืมตาจะมองผม แต่ลืมไม่ขึ้น 
ดูมันเหนื่อยอ่อนเต็มประดา ได้แต่ซุกเข้าอ้อมแขนของผม 
ผมตื้นตันน้ำตาคลอหน่วยเมื่อรู้สึกว่าแม่แมวไม่กลัวผม ไว้ใจผม 
ผมตั้งใจว่าจะช่วยชีวิตแม่แมวผู้กล้าหาญและลูกทั้งห้าตัวของมัน 
ชีวิตของพวกมันขึ้นอยู่กับผม ผมค่อยๆวางแม่แมวลงในลังรวมกับลูกๆ 
แม่แมวตาบอดยังอุตส่าห์ใช้จมูกแตะลูกแมวแต่ละตัวจนทั่ว 
เพื่อให้แน่ใจว่าทุกตัวปลอดภัย มันเบาใจที่ลูกของมันอยู่ครบทุกตัว 
แม้ตัวมันเองจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม 
แมวทั้งหมดต้องได้รับการเยียวยารักษาโดยด่วน
...
ผมนึกถึงบ้านสงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่งชื่อ สันนิบาตสัตว์นอร์ทชอร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ลองไอส์แลนด์ 
ผมเคยนำสุนัขถูกไหม้ไฟอาการสาหัสไปให้ที่นั่นรักษาแผลเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน องค์กรนี้ช่วยได้แน่ 
ผมโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่ากำลังพาแม่แมวและลูกแมวถูกไฟลวกอาการสาหัสไปให้รักษา 
ผมไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังสวมชุดดับเพลิงที่มีคราบควันไฟอยู่เต็ม 
แล้วบึ่งรถบรรทุกของผมไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ 
เมื่อไปถึงก็เห็นสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่สองชุดเตรียมตัวรับแมวอยู่แล้วที่ลานจอดรถ 
พวกเขารีบนำแมวทั้งหมดเข้าไปในห้องพยาบาล 
ทีมหนึ่งรักษาแม่แมวอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งและอีกทีมหนึ่งดูแลลูกแมวอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง

ผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นกำลังจากการดับไฟ และพยายามไม่เข้าไปเกะกะในห้องพยาบาล 
ผมไม่ค่อยหวังเท่าไหร่ว่าแมวเหล่านี้จะรอดชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ทิ้งมันไม่ลง
...
หลังจากรออยู่ครู่ใหญ่ สัตวแพทย์ก็บอกผมว่า 
เขาจะต้องเฝ้าอาการแม่แมวและลูกของมันทั้งคืน แต่ไม่มั่นใจนักว่าตัวแม่จะรอดหรือเปล่า
...
วันรุ่งขึ้นผมกลับไปอีก รอแล้วรอเล่า 
กำลังจะเลิกล้มความหวังแล้วสัตวแพทย์ก็เดินเข้ามาบอกข่าวดีกับผมว่า 
ลูกแมวรอดแล้ว แล้วแม่แมว ผมกลัวคำตอบเหลือเกิน 
ยังบอกไม่ได้ครับ ขอดูก่อน
ผมไปที่นั่นทุกวันเพื่อรอฟังอาการ แต่ละวันก็ได้ยินคำตอบซ้ำๆคือ 
ต้องรอดูก่อน
...
ประมาณหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง 
ผมไปที่สถานสงเคราะห์สัตว์อีกครั้งด้วยความรู้สึกหดหู่ นึกในใจว่า 
ถ้าแม่แมวไม่ตาย ป่านนี้ก็รู้แล้วล่ะ 
จะมีอาการ่อแร่อย่างนี้ไปอีกนานเท่าไร
แต่ทันที่ผมเดินเข้าไป สัตวแพทย์ก็ยิ้มรับและยกนิ้วให้สัญญาณผมว่า 
แม่แมวไม่เพียงแต่รอดพ้นจากขีดอันตรายเท่านั้น 
อีกหน่อยมันจะมองเห็นได้อีกด้วย
...
เอาละ ในเมื่อแม่แมวอุตส่าห์รอดมาได้อย่างนี้ ...ก็ต้องตั้งชื่อให้มันเสียหน่อย 
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตั้งชื่อว่าแม่สการ์เลตแปลว่า
..."แดงก่ำ"...
เพราะผิวที่แดงเถือกของมัน
ผมสะท้อนใจที่ได้เห็นแม่แมวเจอหน้าลูกๆอีกครั้ง 
เพราะรู้ดีว่ามันต้องกัดฟันต่อสู้ขนาดไหนกว่าจะรอดมาได้
...แล้วทายซิว่าสิ่งแรกที่แม่แมวทำคืออะไร??
...มันนับลูกอีกครั้ง โดยใช้จมูกแตะลูกแมวทีละตัวๆให้มั่นใจว่าลูกๆ 
อยู่กันปลอดภัยโดยครบถ้วน มันยอมเสี่ยงภัยเพื่อลูก ไม่ใช่ครั้งเดียว 
แต่ถึงห้าครั้ง และได้ผลด้วย ลูกๆของมันรอดชีวิตทั้งหมด!
อาชีพอย่างผมนี่มีโอกาสได้เห็นวีรกรรมกล้าหาญอยู่ทุกวัน 
แต่ที่แม่แมวพิสูจน์ให้เห็นในวันนั้น เป็นสุดยอดวีรกรรม 
เป็นวีรกรรมที่มาจากความรักของแม่โดยแท้  

ผู้ส่ง : จาก Mthai.com

เรื่องจริงมาจาก Wiki
http://en.wikipedia.org/wiki/Scarlett_(cat)On March 30, 1996, Scarlett and her five kittens were in an abandoned garage allegedly used as a crack house in Brooklyn when a fire started from undetermined causes. The New York City Fire Department responded to a call about the fire and quickly extinguished it. When the fire was under control, one of the firefighters on the scene, David Giannelli, noticed Scarlett carrying her kittens away from the garage one by one. Scarlett herself had been severely burned in the process of pulling her kittens from the fire. Her eyes were blistered shut, her ears and paws burned, and her coat highly singed. The majority of her facial hair had been burnt away. After saving the kittens she was seen to touch each of her kittens with her nose to ensure they were all there and alive, as the blisters on her eyes kept her from being able to see them, and then she collapsed unconscious.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Cast Away จากภาพยนต์สู่เรื่องจริง : การต่อสู้ของมนุษย์เพื่อเอาชีวิตรอดกลางมหาสมุทร

ผมมีอะไรเล่าให้ฟัง กับเงิน 800 บาทกินทั้งเดือน...สำหรับคนที่ท้อแท้หาทางออกกับชีวิตไม่ได้

ฉันชื่อ "โอกาส"