อ่านแล้วมีกำลังใจทำงานขึ้นเยอะเลย...
ไม่อยากเรียกว่าลำบากเพราะเรามีความสุขและเต็มใจทำ เราเป็นลูกคนเล็ก มีพี่ 2 คน
แม่รับจ้างทอดหมึกอยู่หน้าเตาร้อนๆ ค่าแรง วันละ 50 บาท
พ่อถีบสามล้อรายได้ไม่แน่นอน
ที่บ้านมีหม้อหุงข้าวไฟฟ้า 1 ใบ
แล้วก็กระทะจานชามเท่านั้น เครื่องครัวอื่นๆไม่มี
แม่เลิกงานตอน 3 ทุ่ม
พ่อจะแวะกลับมาตอน 6 โมงเย็น
เพื่อดูว่าลูกกินข้าวเรียบร้อยหรือยังแล้วก็ออกไปถึบรถต่อ
แล้วก็เลยรับแม่กลับมา
พี่สาวที่อายุมากกว่าเรา 3 ปี เป็นคนทำกับข้าว
ตอนนั้นเรา 6 ขวบ คอยเป็นลูกมือ ทำทุกอย่างที่พี่สั่ง
กินข้าวเสร็จ ก็เก็บล้างจาน แบ่งข้าวและ กับ
ส่วนนึงไว้ให้พ่อกับแม่
โดยต้องรองน้ำใต้จานให้ดีๆ ไม่งั้นแม่กับพ่อต้องกินข้าวพร้อมมดง่ะ
ซักเสื้อ กระโปรงเอง ไม่ต้องซักถุงเท้า ไม่ต้องรีดเสื้อ
เพราะไม่มีรองเท้า แล้วก็ไม่มีเตารีด
เสื้อนักเรียนขอบริจาคมาตอนวันเด็ก หนังสือยืมโรงเรียน
(โรงเรียนวัดแหลมสุวรรณาราม) ไม่เคยมีค่าขนมไปโรงเรียน กินข้าวฟรีที่เค้าให้เด็กยาก
จนกินน่ะ
เราเริ่มหาเงินก้อนแรกในชีวิต ด้วยวัย 6 ขวบนี่แหล่ะ
ตอนนั้นพ่อขาหัก (ถูกคนที่นั่งมาใน 3 ล้อ เอาไม้หน้า 3 ตี ด้วยเหตุ เบี้ยวค่าโดยสาร ในราคา 5 บาท) พ่อไม่ได้นอนโรงพยาบาล แต่มารักษาที่บ้าน
เพราะ เงินเราไม่มี
วันนั้นข้างบ้านเค้ารับจ้างแกะหอยแครงต้ม เรา 3 คนพี่น้อง
ก็ไปนั่งแกะ อยากได้เงิน น่ะ
นั่งแกะกับพื้นแฉะๆ (มันเมื่อยน่ะไม่มีโต๊ะเหมือนคนอื่นเค้า)
ตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม เราง่วงมาก ยุงกัดตัวก็แฉะๆ
แต่มันไม่เท่ามือ มือมันเลือดออก แกะไม่เป็นแล้วเรา
ก็รู้สึกว่ามันแกะยากแต่ก็พยายามนะ เพราะอยากได้เงิน
รู้สึกว่า ถ้าได้เงิน แม่คงดีใจ แล้วพ่อก็จะมีเงินซื้อยากิน
ตกลงคืนนั้น เราได้ค่าแกะหอยแครง เป็นเงิน 7 บาท
วิ่งกลับบ้านพร้อมพี่ๆ ด้วยความดีใจ ลืมมือที่เจ็บไปเลย
กลับบ้าน แม่ยืนรออยู่หน้าบ้าน ก็เอาเงิน 7 บาทยื่นให้แม่
ตอนนั้นร้องไห้ ไม่รู้หรอก..เห็นแม่ร้องก็ร้องตาม
แม่เอามือไปจูบ..แล้วเช็ดเลือดที่มันซิบๆอยู่ในมือ..แม่บอก
พรุ่งนี้ไม่ต้องไปรับจ้างแล้ว แค่นั้น..
หลังจากวันนั้น 3 คนพี่น้อง เริ่มคิดเราจะทำไงให้ได้เงิน
เราก็ไม่รู้หรอก ตามพี่ไปเรื่อยๆ ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
ก็ไปรับจ้างแกะกุ้ง อันนี้สบายหน่อยเพราะไม่เจ็บมือ จนถึง 2 ทุ่ม
เสาร์ อาทิตย์ ทำได้ทั้งวัน ไปตัดปลาปั๊กกัง ตัด 1 กิโลได้ 50สตางค์
ถ้าปลาไม่มี ก็ไปเก็บขวดพลาสติก ตามถังขยะขาย
ถ้าวันไหนแม่หยุด ก็ทำขนมข้าวเกรียบปากหม้อไปเดินขายตามบ้าน
ถูกหมาไล่กัดบ้าง ถูกเจ้าของบ้านไล่บ้าง มีครั้งนึง
ที่ไปเก็บขยะ ถูกเจ้าของบ้านจับตัว หาว่าเป็นเด็กจรจัด
ไปขโมยของเค้า สรูปก็คือ วันนั้น ขวดพลาสติกที่เก็บได้
ถูกยึดไปหมดเลย 3 คนพี่น้อง เดินคอตกกลับบ้าน
แล้วหลังจากนั้นแม่ก็ไม่ให้เก็บอีก..
ก็เป็นอย่างนี้ จนเราจบ ป.6
พอขึ้น ม.1 แม่ออกมาขายอาหาร เพราะคิดว่าเงิน 50 ส่งลูก
เรียนไม่ได้แน่ๆ อ้อ เราเป็นคนเดียวที่ทางบ้านส่งเรียนหนังสือ
พ่อเปลี่ยนมาเป็นออกเรือประมง...แล้วก็เปลี่ยนมาทำอวนเครื่องมือจับปลา.......
ลูกๆ 3 คนตื่น ตี 3
ครึ่งเพื่อมาเป็นลูกมือแม่ในการเตรียมของขาย
ช่วงเวลา 3 ปี หลังจากนี้
ชีวิตเปลี่ยน....
จากที่แม่ขายของวันแรกขาดทุน 119 บาท
วันนี้แม่ได้กำไรวันละ 2500-3000บาท
พ่อที่เคยโดนโกงค่าถีบสามล้อ ในราคา 5 บาท
ทุกวันนี้เป็นเจ้าของกิจการ(เครื่องมือจับปลา) ที่มีกำไรเดือนละมากกว่า 7 หมื่น
พี่ชายพี่สาว ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ กลับไปเรียนแบบศึกษาผู้ใหญ่มีการมีงานเป็นหลัก
แหล่ง
ทุกวันนี้ที่บ้าน มีรถ 4 คัน กะบะ 1 เก๋ง 2 และแวน อีก 1
มีข้าวของทุกอย่างครบ (ซึ่งบางทีอาจจะเกินความจำเป็น)
แล้วเด็กจากโรงเรียนวัด ที่ไม่เคยมีเสื้อ หนังสือ
รองเท้าเป็นของตัวเอง
ทุกวันนี้ จบปริญาตรี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คณะศิลปศาสตร์ ทำงานเป็นนักข่าว มาแล้ว 2 ปี
ตอนนี้มีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง และกำลังจะเรียนต่อป.โท...แร้น
ปล.ยาวไปป่าวเนี่ย แต่อยากเล่า พ่อสอนเสมอ ว่าให้เป็น
คนดี จนแค่ไหน อย่าอาย ถ้าจะอาย ก็อายที่เป็นคนไม่ดี
พ่อบอก ทำดีสะสมไว้ แล้วเราจะมีความสุข
อย่างน้อย......ก็ที่หัวใจของเราเอง......
Fwd Mail