บทความดีๆ ที่ “สตีฟ จอบส์” บรรยายในพิธีรับปริญญา (ตอนที่ 2)

      การบรรยายของ สตีฟ จอบส์ ผู้สร้าง Macintosh ที่แสดงในวันรับปริญญาของ Stanford University เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2548 ไม่เพียงสร้างความประทับใจให้แก่บัณฑิตจบใหม่ในวันนั้น แต่ยังรวมไปถึงโลกคอมพิวเตอร์ที่ Silicon Valley และยังคงได้รับการชื่นชมและกล่าวขวัญไปทั่วโลกจนถึงวันนี้

     สุนทรพจน์วันนั้นจอบส์เพียงแต่เล่าถึงบทเรียนในชีวิตของเขา 3 บท แต่เป็น 3 บทที่ทำให้เขา (ซึ่งแม้แต่แม่ที่แท้จริงก็ไม่ต้องการ) กลายเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก

บทเรียนที่ 2 ความรักและการสูญเสีย

  
ในปีค.ศ. 1977 สตีฟ จอบส์ กับวอซเนียก ได้นำเครื่อง Apple II ออกสู่ตลาด 


 ผมเป็นคนโชคดีที่ค้นพบงานที่ผมรักตั้งแต่อายุยังน้อย ผมกับวอซ (Waz) ก่อตั้ง Apple ในโรงรถของพ่อแม่ผม ตอนผมอายุ 20 ปี เราทำงานกันหนักมากครับ ภายใน 10 ปี Apple ขยายจากแค่เรา 2 คน ในโรงรถ เป็นบริษัทมูลค่ากว่า 2,000 ล้านเหรียญที่มีพนักงานกว่า 4,000 คน ตอนนั้นเราเพิ่งเปิดตัวผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเรา เครื่องแมคอินทอช 1 ปีก่อนหน้าที่ผมจะอายุเต็ม 30 ปี แล้วผมก็ถูกไล่ออก
ทำยังไงคนเราถึงได้ถูกไล่ออกจากบริษัทที่เราก่อตั้งมาเองกับมือหรือครับ?
    
คือว่าเมื่อแอปเปิ้ลโตขึ้นเราก็จ้างคนที่เราคิดว่าเก่งมากๆ มาช่วยผมบริหารบริษัท ปีแรกเหตุการณ์ก็ราบรื่นดี แต่หลังจากนั้นวิสัยทัศน์ของเราก็เริ่มแยกทางกัน จนในที่สุดเราก็ไปด้วยกันไม่ได้ เมื่อถึงจุดนั้น คณะกรรมการบริษัทเลือกอยู่ข้างเขา ผมก็เลยถูกไล่ออกตอนอายุ 30 ปี แล้วก็ออกแบบเป็นข่าวดังมากด้วย ในพริบตาเท่านั้น สิ่งที่ผมทุ่มเทให้ทั้งชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของผมก็สลายไป มันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจผมมาก
ผมไม่รู้จะทำอะไรเป็นเวลาหลายเดือน หลังจากนั้นผมรู้สึกว่าผมทำให้เจ้าของธุรกิจรุ่นก่อนผิดหวัง รู้สึกว่า ผมทำไม้ผลัดตก ตอนที่เขากำลังหยิบยื่นมันมาให้ผม ผมไปพบเดวิด แพคการ์ดกับบ๊อบ นอยซ์ เพื่อขอโทษพวกเขาที่ทำทุกอย่างพังพินาศ ผมเป็นตัวอย่างของความล้มเหลวที่โด่งดัง
สตีฟ จอบส์ลาออก 
สตีฟ จอบส์เคยล้มเหลว แต่พร้อมที่จะลุกสู้ทุกเมื่อ 
     ช่วงหนึ่งผมคิดขนาดจะหนีไปจากวงการ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมก็เริ่มคิดได้อย่างช้าๆ ว่าผมยังรักในสิ่งที่ผมทำอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นที่ Apple ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรู้สึกนี้เลย ผมถูกไล่ออก แต่ผมยังมีความรักอยู่ นั่นทำให้ผมตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ 

ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอย่างนี้ แต่ปรากฎว่าการถูกไล่ออกจากแอปเปิ้ลกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะเกิดกับผมได้ ภาระอันหนักอึ้งจากความสำเร็จแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเบาสบาย เมื่อผมกลับกลายเป็นมือใหม่ที่มีความเชื่อมั่นน้อยลง มันทำให้ผมมีอิสรภาพที่จะเข้าสู่ช่วงที่ผมมีความสร้างสรรค์ที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต


      ในช่วง 5 ปี หลังจากนั้น ผมก่อตั้งบริษัทชื่อ NeXT อีกบริษัทชื่อ Pixar  และตกหลุมรักผู้หญิงมหัศจรรย์คนหนึ่ง ซึ่งต่อมากลายเป็นภรรยาผม Pixar สร้างภาพยนตร์ขนาดยาวที่เป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นล้วนๆ เรื่องแรกของโลก คือ Toy Story 

และตอนนี้เป็นสตูดิโอแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก หนึ่งในเหตุการณ์พลิกผันอันน่าพิศวงคือ เมื่อแอปเปิ้ลซื้อกิจการของ 
NeXT กลับคืนสู่แอปเปิ้ล และเทคโนโลยีที่พัฒนาที NeXT ก็กลายเป็นหัวใจของ Apple ยุครุ่งเรืองในปัจจุบัน 
สตีฟ จอบส์และภรรยา 
สตีฟ จอบส์และภรรยาที่แสนดี

     ตอนนี้ลอรีนและผมมีครอบครัวที่อบอุ่นร่วมกัน ผมเชื่อว่าเรื่องราวเหลานี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าแอปเปิ้ลไม่ไล่ผมออก แม้มันจะเป็นยาที่ขมมาก แต่ผมก็คิดว่าเป็นยาที่คนป่วยต้องการพอดี บางครั้งชีวิตก็กระแทกเราเหมือนอิฐ อย่าเสื่อมศรัทธานะครับ ผมเชื่อว่าสิ่งเดียว ที่ทำให้ผมผ่านช่วงนั้นมาได้ คือความรักในสิ่งที่ผมทำ น้องๆ ต้องหาสิ่งที่ตัวเองรัก ผมหมายถึงทั้งงานและคนรัก เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตเราจะหมดไปกับงาน วิธีเดียวที่จะทำให้เรามีความสุขกับการทำงาน คือ เมื่อเราทำงานที่ยอดเยี่ยม และวิธีเดียวที่จะทำให้งานออกมายอดเยี่ยมคือ เมื่อเรารักงานที่เราทำ ถ้าน้องๆ ยังหางานนั้นไม่เจอ จงหาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง งานก็เหมือนเรื่องของหัวใจเรื่องอื่นๆ ตรงที่เราจะรู้ว่ามัน "ใช่" เมื่อได้เจอกับมัน และการทำงานก็เหมือนความสัมพันธ์ที่ดีแบบอื่น คือมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป

ดังนั้นผมอยากย้ำให้น้องๆ ตามหางานที่รักจนกว่าจะเจออย่าท้อถอย

เครดิต : dmc.tv

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Cast Away จากภาพยนต์สู่เรื่องจริง : การต่อสู้ของมนุษย์เพื่อเอาชีวิตรอดกลางมหาสมุทร

ผมมีอะไรเล่าให้ฟัง กับเงิน 800 บาทกินทั้งเดือน...สำหรับคนที่ท้อแท้หาทางออกกับชีวิตไม่ได้

ฉันชื่อ "โอกาส"