ฝันสลาย


          กระทาชายนายหนึ่งมีอาชีพทางขอทาน เขามีหม้อดินอยู่ใบหนึ่งเป็นเครื่องมือในการขอ ส่วนใหญ่ผู้คนจะแบ่งอาหารให้เขา เขาใช้หม้อใบนั้นรับอาหารไปเรื่อยๆจนพอกินแล้วก็กลับมานอนที่เพิงพักที่ปลูกหยาบๆใต้ต้นไม้
          วันหนึ่งเขาขออาหารได้เต็มหม้อ มีทั้งอาหารสดอาหารแห้ง เขากินอิ่มแล้วก็เก็บอาหารที่เหลือซึ่งส่วนใหญ่เป็นของแห้งไว้ในหม้อเพื่อกินในมื้อต่อไป
แล้วแขวนไว้ที่ฝาเพิงด้านปลายเท้า
          เขานอนมองดูหม้อไปคิดเพลินไป พลันความคิดอันบรรเจิดได้เกิดขึ้นแก่เขา
          “เออนะ เราเอาอาหารที่เหลือนี่ไปขายคงได้เงินมาบ้าง ได้เงินมาแล้ว เราก็จะไปซื้อผักถูกๆมาขายต่อคงได้กำไรพอสมควร ทำอย่างนี้สัก ๔-๕ วันคงมีเงินก้อนไปซื้อแพะสักตัวหนึ่ง ต่อไปแพะมันก็จะตกลูกเรื่อยๆ เราก็จะเอาแพะเหล่านั้นไปขายแล้วซื้อวัวตัวเมียมาเลี้ยง นานเข้ามันก็จะตกลูกเรื่อยๆเราก็จะได้วัวเป็นฝูง หลังจากนั้นเราก็จะทำการค้า เอาวัวเทียมเกวียนไปขายต่างเมือง คงได้กำไรมาก ตอนนั้นเราก็จะได้เป็นเศรษฐีมีเงินมีทอง” เขาเพ้อฝันไปเรื่อยๆ
          “เมื่อได้กำไรจากการค้าแล้วเราก็จะสร้างบ้านหลังใหญ่ๆสักหลังหนึ่งแล้วไปขอผู้หญิงที่เราหมายตาไว้มาเป็นเมีย เราก็จะอยู่กันอย่างมีความสุข นางก็จะมีลูกชายให้เราได้ชื่นชม ลูกชายเราจะเป็นคนที่น่ารักน่าอุ้ม วิ่งเล่นซุกซนไปตามประสาเด็ก เมียเราจะคอยดูลูกอย่างดีไม่ให้ห่างตาเมื่อเราไม่อยู่บ้าน”
          เมื่อคิดถึงตอนนี้ เขาถึงกับยิ้มอย่างมีความสุข และความคิดเขายังบรรเจิดต่อไปอีก
          “วันหนึ่งเมียเราคงเผลอปล่อยให้ลูกชายเราวิ่งเล่นไปตามลำพัง ลูกชายเราจึงวิ่งไปชนขอบตู้จนหัวปูด เรากลับมาเห็นลูกหัวปูดเราจึงต่อว่าเมียว่าดูแลลูกไม่ดีปล่อยให้ลูกเจ็บตัว เมียเราก็เถียงเราเห็นนางเถียงคำไม่ตกฟากก็จะถีบเข้าให้ด้วยความโกรธ”
          เมื่อคิดถึงตอนนี้เขาก็ลืมตัวยกเท้าขึ้นถีบ บังเอิญถีบไปถูกหม้อดินโครมเข้าให้ หม้อดินเลยแตก อาหารหกเรี่ยราด ความฝันของเขาก็ยุติลงโดยฉับพลัน เขาลุกขึ้นนั่งเซ่องงงวยอยู่พักหนึ่ง นึกเสียดายหม้อและอาหารที่หกเรี่ยราดไปหมด คงต้องออกไปหาอาหารและหาเงินมาซื้อหม้อใหม่
          “โธ่ ไม่น่าเลยเรา” เขาบ่นกับตัวเอง.

     เรื่องนี้สื่อความได้ว่า :…
          ความฝันอาจเป็นจริงได้
          แต่ความเพ้อฝันไม่อาจให้เป็นจริงได้เลย
          คนที่เอาแต่เพ้อฝันไปวันๆ อยากเป็นอย่างนั้น อยากเป็นอย่างนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้ก็จะดี อะไรทำนองนี้ แต่ว่าเป็นคนเกียจคร้าน ไม่ยอมทำงาน ไม่แสวงหาทางทำความฝันให้เป็นจริง จะเป็นอย่างที่เพ้อฝันไปได้อย่างไร ที่ฝันว่าจะได้หรือจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นเพียงแค่ฝันสลาย หรือวาดวิมานในอากาศเท่านั้น
          คนที่เพ้อฝันชอบสร้างวิมานในอากาศ ก็ไม่ต่างอะไรกับคนเสียสติที่คิดฟุ้งซ่าน หรือบ่นเพ้อไปเรื่อยๆหาสาระอะไรมิได้ ผิดกับ ความใฝ่ฝันซึ่งอาจเป็นแรงกระตุ้นให้คนเรามุ่งไปข้างหน้าแสวงหาทางสานฝันให้เป็นจริง
       คนที่ใฝ่ฝันไม่สูงจนเกินตัวนัก
      ที่ได้รับความสำเร็จ ที่ได้รับความสำเร็จ ได้บรรลุถึงฝั่งแห่งความฝันก็มีไม่น้อยเลย
          แต่คนที่ใฝ่ฝันจนเกินตัวที่ประสบภาวะฝันสลาย
          หรือเจ็บตัวแทบตายก็พอมีอยู่
          แต่ประตูสู่ความสำเร็จสำหรับคนเพ้อฝันนั้น
          ได้ปิดตายมานานแล้ว.

Credit : จากหนังสือ กิ ดังได้สดับมา ของ พระธรรมกิตติวงศ์(ทองดี สุรเตโช)

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Cast Away จากภาพยนต์สู่เรื่องจริง : การต่อสู้ของมนุษย์เพื่อเอาชีวิตรอดกลางมหาสมุทร

ผมมีอะไรเล่าให้ฟัง กับเงิน 800 บาทกินทั้งเดือน...สำหรับคนที่ท้อแท้หาทางออกกับชีวิตไม่ได้

ฉันชื่อ "โอกาส"